การเดินทางไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เรียกว่าเป็นการเดินทางที่ได้ครบทุกความมันส์ในอารมณ์ ครบทุกรสสำหรับนักเดินทางจริง ๆ จากเส้นทางการเดินทางด้านล่างที่ได้ข้อมูลมาจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทีมงานเราเลือกใช้เส้นทางที่ 2 ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี (ทางหลวงหมายเลข 323) จากนั้นใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-ท่ากระดาน-แม่ละมุ่น (ทางหลวงหมายเลข 3199 ) เส้นทางช่วงนี้ลาดยางตลอด ทีมงานพารถไปลงแพที่ท่าแม่ละมุ่น(ตอนแรกนึกว่ามาผิดทางเพราะทางแยกลงแพเกือบมองไม่เห็น หรืออาจเป็นเพราะสายตาไม่ดี) ข้ามไปท่าอำเภอศรีสวัสดิ์ ใช้เวลาประมาณ15 นาที เสียค่าธรรมเนียมรถยนต์คันละ 70 บาท จากนั้นพอขึ้นท่าได้ก็ลุยขับรถยนต์ต่อไปจนถึงประมาณ กม.ที่ 65(สิ้นสุดประมาณ กม. 62 แล้วจะเป็นทางรพช.ต่อ) จะเห็นป้ายวัดดงเสลาเก่าขวามือ (ป้ายเก่าและเล็ก ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็น) ถัดจากนั้นไปเล็กน้อย จะเห็นทางแยกซ้ายมือไปแพขนานยนต์ ทางลูกรังอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบท่าแพขนานยนต์ข้ามไปท่าห้วยแม่ขมิ้น ใช้เวลา 30-45 นาที เสียค่าธรรมเนียมคันละ 180 บาท (เป็นสปอร์ตไรเดอร์) ขึ้นท่าขับรถตะลุยต่อไปอีก 7 กิโลเมตรบนทางลูกรัง เป็นหล่มบ้าง ถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียมน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น(คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท รถยนต์ต่างหาก) ตรงที่ด่านจะเห็นทางเข้ามากอีกด้านหนึ่งเป็นลาดยาง ทีมงานก็ตกใจ เฮ้ย! เลือกทางผิดหรือเปล่าเนี่ย เจ้าหน้าที่เลยบอกใจเย็น ๆ เห็นแบบมีแค่ประมาณ 10 กม. ที่เหลือยังเป็นลูกรังอยู่ จากตรงนี้ต้องลุยไปทางดินอีก ประมาณ 1 กม. ก็จะถึงที่จอดรถน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นพอดี เย้!!!!!!!!!!!!!!! ในที่สุดถึงจนได้

     มีทั้งขับรถไปบนถนนคดเคี้ยวเลี้ยวลด ชันบ้างไม่ชันบ้าง ข้ามแพแม่ละมุ่น ขึ้นบก ขับต่อไป บุกตะลุยทางลูกรัง อีก 5 กม. เพื่อไปขึ้นแพขนานยนต์ ขึ้นแพอีกรอบ และลุยกับทางลูกรัง ที่ทำเอาอวัยวะภายในสลับที่กันแทบไม่ทัน อีก 7 กม.ก็จะถึงด่านเก็บค่าธรรมเนียม แม้การเดินทางจะสุดแสนทรหด ถึงจะไม่เท่าขับรถไปน้ำตกทีลอซูก็ตาม แต่การเดินทางบนเส้นทางนี้ก็ทำให้พบกับความประทับใจในความหลากหลาย และความสวยงามของที่นี่จริง ๆ “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น”

     น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรีไม่น้อยไปกว่าน้ำตกเอราวัณ ถึงการเดินทางลำบากกว่า แต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ไม่น้อยทีเดียว น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีต้นน้ำตกอยู่บนเทือกเขากะลา ไหลมาเป็นน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้น จากนั้นไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ต่อไป

     เมื่อผ่านการเดินทางตามที่ได้กล่าวไปแล้วเมื่อสักครู่ ก็มาถึงที่จอดรถของทางอุทยาน สิ่งที่รอต้อนรับอยู่ก็คือ ทิวทัศน์อันสวยงามจากจุดกางเต็นท์ของทางอุทยานจะมองเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์เต็มจอตาทีเดียว แต่ว่าพวกเราทีมงานก็ไม่ขอหยุดชมวิวนาน เพราะถูกดึงดูดความสนใจไปด้วยเวลาที่เพราะมาถึงก็เที่ยงกว่า ๆ แล้ว สายตาก็สอดส่ายสายตาหาน้ำตกที่เจ้าหน้าที่แนะนำบอกว่าเดินไม่ไกล พอได้เห็นน้ำตกที่สวยงาม ขนาดใหญ่มาก ๆ รอคอยอยู่ ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นตัวน้ำตกทั้งหมด แต่นี้คือ “ฉัตรแก้ว” น้ำตกชั้นที่ 4 เท่านั้น จากนั้นคุณจะต้องเลือก 2 เส้นทางแล้วว่าจะไปทางไหน ไปทางซ้ายลงสู่ชั้น 3 2 1 แต่ถ้าไปทางด้านขวา ไปชั้น 5  6 7 (แต่เราไม่อยากรักพี่เสียดายน้อง เลยจะไปทั้งสองที่นั่นแหละ) เส้นทางเดินเที่ยวชมน้ำตกแม้จะยาวกว่า 2 กม. แต่เส้นทางที่จัดไว้ให้เดินอย่างดีก็ทำให้การเดินทางชมน้ำตกทั้ง 7 ชั้นสะดวกสบาย เพียงแต่ต้องเสียเหงื่อหน่อยเท่านั้นเอง

     เมื่อเจอน้ำตกชั้นที่ 4 ก่อนเพื่อนก็ต้องพูดถึงก่อนเป็นธรรมดา “ฉัตรแก้ว” ได้ชื่อมาจากตัวน้ำตกประกอบไปด้วยชั้นเล็กชั้นน้อยแบ่งกันเป็นลำดับขั้นหลายชั้นเหมือนฉัตร และความใสของตัวน้ำตกเหมือนแก้วเลยได้ชื่อนี้มา  เกาะขอบรั้วไม้ที่ทางอุทยานฯ กั้นไว้มองไปด้านล่างลึกที่เดียวสงสัยว่าชั้นนี้คงเล่นน้ำไม่ได้แน่เพราะมีป้ายติดไว้ว่า “ปิดปรับปรุง” (ไม่ใช่ ไม่ให้เล่นเพื่อให้น้ำตกได้มีโอกาสฟื้นฟูตัวเองบ้าง เหตุผลจะมีอธิบายไว้บนป้ายเรื่องของการงอกของน้ำตกจากแมลงอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้” น้ำตกชั้นนี้ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกชั้นที่สวยที่สุดทีเดียว แต่ทีมงานเราต่างคนต่างใจถูกใจชั้นเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างเกี่ยวกับชั้นที่สวยที่สุดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

     ที่ด้านบนชั้น 5 “ไหลจนหลง”ทำให้เราหลงจริง ๆ เพราะว่าตอนแรกคาดว่าจะใหญ่เหมือนชั้น 4 ปรากฏว่าเล็กกว่ามาก และอยู่ไกลสายตา ถ่ายรูปได้ไม่ค่อยชัด (ดูรูปได้จากภาพด้านล่าง) เลยผ่านชั้นนี้ไปในเวลาอันรวดเร็วแบบงง ๆ

     ชั้นที่ 6 “ดงผีเสื้อ” เป็นชั้นยอดฮิตชั้นหนึ่งของทีมงานเช่นกัน ตัวน้ำตกกว้าง มีชั้นคล้ายตึกใหญ่ น้ำที่ไหลจากน้ำตกมาก ดูแล้วคล้ายกับเด็กผู้หญิงใส่กระโปรงสีขาวฟู ๆ แต่ไม่ยักเห็นผีเสื้อ หรืออาจจะไม่ใช่ฤดูผีเสื้อ หรือ...(ไม่ทราบเหมือนกัน)

     ชั้นที่ 7 “ร่มเกล้า” เป็นน้ำตกชั้นที่สูงสุด ลองแอบปีนขึ้นไปดูบนน้ำตกมีเหมือนทางให้เดินทางแต่ว่ารกรุงรังไปด้วยต้นไม้ เลยได้แต่มอง เพราะกลัวหลงป่าไม่ได้กลับกัน น้ำตกชั้นนี้แบ่งเป็นชั้นใหญ่ น้ำไหลตกมากลายเป็นแอ่ง และแบ่งเป็นชั้นย่อยเล็ก ๆ ลงไปอีกเลยดูเหมือนร่มหรือเปล่า (อันนี้เดากันเอาเองอย่าเชื่อพวกเราเป็นอันขาด)

     เดินจนครบชั้นแล้วก็ย้อนกลับไปทางเดิม เพื่อไปชมน้ำตกชั้น 1-3 กันต่อ ผ่านน้ำตกชั้นที่ 4 “ฉัตรแก้ว”อีกครั้ง ก่อนลงฝากของกิน โฟมและขวดพลาสติกซะดีดี มิฉะนั้นท่านจะโดนปรับเงิน จากนั้นเดินลงบันไดที่ทอดลงไปด้านล่างหลายขั้นมาก ๆ และมีราวบันไดให้ยึดอยู่ด้านเดียวก็ต้องใช้ความระมัดระวังกันมาก จนมาถึงชั้นที่ 3 จนได้

     ชั้นที่ 3 “วังหน้าผา” น้ำตกชั้นนี้น้ำจะพุ่งลงมาจากผาด้านบน เป็นเหมือนท่อประปาใหญ่แตกเลยทีเดียว แอ่งน้ำด้านล่างก็สวยไม่แพ้กัน อยากลงเล่นน้ำกันใจจะขาด แต่ติดที่ภารกิจการเก็บภาพยังไม่เสร็จสิ้นจึงต้องจากวังหน้าผาไปด้วยความเสียดาย

     ชั้นที่ 2 “ม่านขมิ้น” น้ำตกแบ่งเป็นสองตัวติดกันเหมือนคู่แฝด น้ำไหลจากตัวน้ำตกเป็นแอ่งน้ำตกเป็นอีกชั้นที่คนนิยมเล่นกัน

     ชั้นที่ 1 “ดงว่าน” เป็นอีกชั้นที่อยู่ในความชื่นชอบของกลุ่มทีมงานเพราะตัวน้ำตกชั้นนี้เหมือนประกอบด้วยตัวน้ำตกชั้นเล็ก ๆ หลายสิบชั้นจัดเรียงตัวจากฝีมือธรรมชาติเป็นศิลปะที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้แวะมาชม

     ข้อแนะนำ (ข้อมูลจากททท.) ทีมงาน Thongteaw.com เดินทางไปช่วงปลายพ.ย.51
1.ช่วงที่เหมาะจะเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ช่วงเดือนตุลาคม–เมษายน
2.ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
3.ในบริเวณอุทยานฯ มีบ้านพักจำนวน 20 หลัง ราคา 900-2,700 บาท และสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งร้านอาหารสวัสดิการ ตอนกลางคืน มีการฉายสไลด์ สอยถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์ เวลา 09.00-15.30 น. หรือ www.dnp.go.th 


การเดินทาง
รถยนต์
เส้นทางที่ 1 ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี จากนั้นใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ (ทางหลวงหมายเลข 3199 ) ผ่านถ้ำพระธาตุ ห้วยพุมุด (วัดพุมุด) เส้นทางหลังจากนี้เป็นดินลูกรังอัดแน่นเข้าไปถึงบริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร ควรใช้รถสภาพดีมีกำลังหรือจะเช่ารถสองแถวจากตัวเมืองหรือที่ตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ ได้เช่นกัน

เส้นทางที่ 2 การนำรถยนต์ข้ามแพขนานยนต์   ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี จากนั้นใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-ท่ากระดาน-แม่ละมุ่น (ทางหลวงหมายเลข 3199 ) เริ่มจากนำรถลงแพที่ท่าแม่ละมุ่นข้ามไปท่าอำเภอศรีสวัสดิ์ ใช้เวลาประมาณ15 นาที เสียค่าธรรมเนียมรถยนต์คันละ 50 บาท จากนั้นขับรถยนต์ต่อไปประมาณ 10 กิโลเมตร จะพบท่าแพขนานยนต์ข้ามไปท่าห้วยแม่ขมิ้น ใช้เวลา 30-45 นาที เสียค่าธรรมเนียมคันละ 150 บาท จากนั้นขับรถต่อไปอีก 7 กิโลเมตร ถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

เรือ เรือเหมา ขึ้นที่ท่าหม่องกระแทะหรือท่าเรือท่ากระดาน ซึ่งอยู่ห่างจากทางแยกเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 12กิโลเมตร ราคา 1,500 (10 คน) - 3,000(30 คน) บาท เมื่อถึงท่าห้วยแม่ขมิ้นเดินขึ้นไป 200 เมตร ถึงตัวน้ำตก

รถโดยสาร สามารถขึ้นรถสองแถวจากบริเวณวัดทุ่งลาดหญ้าในเขตอำเภอเมือง ผ่านบ้านต้นมะพร้าว บ้านน้ำมุด พุดตาเซียน ถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น รถออกเวลาประมาณ 12.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง (หมายเหตุ - เวลารถโดยสารอาจเปลี่ยนแปลงได้) (ข้อมูลการเดินทางจาก ททท.)

เส้นทางเดินเท้าสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นชั้นต่าง ๆ และจุดชมบรรยากาศบริเวณลานกางเต้นท์(ภาพขวาสุด) มองไปไำกล ๆ จะเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

ความงดงามของน้ำตกชั้นภายในบริเวณของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ชั้นที่ 1ดงว่าน และชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ตามลำดับ

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทั้งสวยงามและมีขนาดใหญ่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ จากซ้าย ชั้น 6 ดงผีเสื้อ ชั้น 3 วังหน้าผา และชั้น 7 ร่มเกล้า

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นทั้งสวยงามและมีขนาดใหญ่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ และชั้นที่ 4 ฉัตรแก้วตามลำดับ

น้ำตกชั้นที่ 5 ไหลจนหลง (ซ้าย) และน้ำตกชั้นเล็ก ๆ ระหว่างทางคอยไว้ให้ความชุ่มชื่นแก่นักท่องเที่ยว

บรรยากาศระหว่างทางสู่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นที่ใช้แพขนานยนต์เป็นพาหนะเดินทาง และบรรยากาศยามตะวันเริ่มจะลาลับขอบฟ้า ชวนให้เสียดายที่เวลาแห่งความประทับใจใกล้จะหมดลง(ภาพกลาง)